indiantrends.com
ปรับสภาวะอารมณ์ ลดความเครียด ความเครียดเป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาสุขภาพมากมาย อีกทั้งยังทำให้เกิดปัญหาทางด้านอารมณ์ที่ส่ง ผลต่อร่างกาย ทำให้นอนหลับไม่มีคุณภาพ การวิ่งแบบหนักปานกลาง (moderate intensity) ช่วยให้หลับอย่างมีคุณภาพ แม้กระทั่งในผู้สูงอายุ (3) สำหรับเวลาของแต่ละท่านในการวิ่ง อาจเป็นช่วงที่ท่านสะดวก มีบ้างที่บางท่านอาจวิ่งหนัก หรือ ดึกเกินไปจนทำให้นอนไม่หลับ ก็อาจปรับเวลาไม่ให้ดึก หรืออาจลดความหนักของการวิ่งลง 5. ปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้น เพราะบุคลิกภาพเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อสุขภาพภายในดี ร่างกายแข็งแรง รูปร่างดูสมส่วน สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อความรู้สึกโดยตรงโดยเฉพาะเรื่องของความมั่นใจและการเข้าสังคม การวิ่งเป็นประจำจะมีการเผาผลาญไขมันสะสม ทั้งในช่องท้องและผิวหนัง หากท่านวิ่งเป็นประจำจนกระทั่งไขมันสะสมที่ผิวหนัง (เซลลูไลท์) ลดลง ผิวหนังสวย เนียนขึ้น ความมั่นใจก็ตามมา ข้อมูลจาก: นพ.
Runkeeper เป็นแอปพลิเคชันโปรดปรานของนักวิ่งหลายคน เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยนักวิ่งหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น การติดตามการวิ่ง เสียงบอกระยะทาง ระดับการเต้นของหัวใจ และสามารถวางแผนเป้าหมายจากการวิ่งของเราเพื่อให้ตรงกับจุดประสงค์การวิ่งที่เราต้องการได้ด้วย 5. 5K to 10K เหมาะสำหรับนักวิ่งที่วิ่งเก็บระยะทางได้มากขึ้นระดับหนึ่งแล้ว แต่ต้องการไปต่อมากกว่าที่เคยสะสมไว้ ก็จะเพิ่มขึ้นได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ เพียงวิ่งวันละ 30-70 นาที เป็นเวลา 3 วัน/สัปดาห์ เพราะความสามรถของแอปพลิเคชันนี้ทำให้เราสามารถติดตามจำนวนก้าวและระยะทาง ตั้งค่าเป้าหมายหรือแม้แต่เลือกเพลงโปรดฟังระหว่างวิ่งได้ 6. Fitness 22 Couch To 10 K เราอาจคิดว่าการวิ่งได้ระยะ 10 กิโลเมตร รู้สึกเหนื่อย แต่ถ้าตั้งใจจริงๆ เราก็สามารถทำได้ แอปพลิเคชัน Fitness 22 Couch TO 10 K ตั้งใจที่จะทำให้เราสามารถเข้าถึงระยะกิโลเมตรที่ 10 ได้ ภายใน 14 สัปดาห์ และเป็นระยะเวลาที่ไม่กดดันนักวิ่งมากเกินไป แถมยังมีฟีเจอร์มากมายที่สนับสนุนการวิ่งของเราให้รู้สึกสนุก 7. MapMyrun แอปพลิเคชันนี้มีผู้ใช้มากถึง 50 กว่าล้านคน สามารถดูการวิ่งของเราอัพเดทระยะทางที่วิ่งแบบเรียลไทม์ เช็คจำนวนก้าววิ่ง และยังสามารถเก็บประวัติการวิ่งของเรา เพื่อช่วยให้เราวางแผนการวิ่งได้ดีขึ้น แถมยังสามารถโพสต์ผลงานที่เราทำได้ในแต่ละวันลงโซเชียลได้อีกด้วย ลองเลือกใช้กันดูนะคะ ข้อมูลจาก:
ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่า ครูจะให้นักเรียนฝึกทดสอบการ วิ่งเก็บของ 3. ครูแนะนำให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง วิ่งเก็บของ จากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L. O. LMS Lite เพิ่มเติมนอกเวลาเรียน 4. ครูขออาสาสมัครนักเรียนออกมานำการอบอุ่นร่างกาย แล้วให้นักเรียนที่เหลือปฏิบัติการอบอุ่นร่างกายพร้อมกัน ขั้นที่ 2 ทำตามแบบ สื่อ/แหล่งการเรียนรู้: 1. เอกสารประกอบการสอน 2. ครูสาธิตการทดสอบวิ่งเก็บของ พร้อมอธิบายประกอบ แต่ละขั้นตอน เพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจ 2. นักเรียนแต่ละคนฝึกทดสอบการวิ่งเก็บของ ตามแบบที่ครูสาธิต พร้อมปรับปรุงแก้ไขหากมีข้อบกพร่อง หรือขอคำแนะนำจากครูผู้สอน หรือศึกษาเพิ่มเติมจากเอกสารประกอบการสอน ขั้นที่ 3 ทำเองโดยไม่มีแบบ แหล่งการเรียนรู้: โรงยิมหรือสนามกีฬาโรงเรียน คำถามกระตุ้นความคิด 1. นักเรียนแต่ละคนฝึกทดสอบการวิ่งเก็บของโดยไม่มีแบบ 2. ครูสังเกตการฝึกทดสอบของนักเรียนเป็นรายบุคคล และ เน้นย้ำให้นักเรียนคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง 3. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ถ้าไม่มีไม้ที่เป็นอุปกรณ์ในการวิ่งเก็บของแล้ว นักเรียนจะใช้อุปกรณ์ใดทดแทน (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 4 ฝึกทำให้ชำนาญ แหล่งการเรียนรู้: โรงยิมหรือสนามกีฬาโรงเรียน คำถามกระตุ้นความคิด 1.
30 น.
ตัดกระดาษสีตามสีของลูกบอลพลาสติก แล้วติดลงบนตะกร้าด้วยเทปใส (ถ้าที่บ้านหรือที่โรงเรียนมีตะกร้าผ้าหลาย ๆ สี สามารถใช้สีของตะกร้าแทนกระดาษสีได้เลยค่ะ) 2. วางกรวยกีฬาและตะกร้าเพื่อกำหนดเป็นจุดเริ่มต้น 3. เทลูกบอลพลาสติกลงบนพื้นสนามหญ้า โดยให้มีระยะทางห่างจากจุดเริ่มต้นประมาณ 7 เมตร (ถ้าหากผู้เล่นหรือจำนวนเด็กเยอะ แนะนำให้เพิ่มระยะห่างเป็น 10 เมตรค่ะ) ในการจัดกิจกรรม แนะนำให้คุณครูหรือผู้ปกครองพาเด็ก ๆ ทำกิจกรรมบนสนามหญ้า เพราะเด็กได้รู้สึกถึงความเป็นอิสระและสนุกสนานกับการเล่นได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังช่วยป้องกันและลดการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ วิธีการเล่น 1. แบ่งเด็กออกเป็น 2 ฝ่าย จากนั้นให้เด็กเลือกสีลูกบอลของตัวเอง เมื่อเลือกสีลูกบอลเสร็จแล้ว ให้เด็กยืนประจำตำแหน่งที่จุดเริ่มต้น เพื่อรอสัญญาณนกหวีด คุณครูหรือผู้ปกครองแนะนำเด็ก ๆ เกี่ยวกับกฎกติกาในการเล่น 2. เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณนกหวีด ให้เด็ก ๆ วิ่งไปหยิบลูกบอลตามสีที่ตัวเองเลือก จากนั้นให้วิ่งกลับมาที่จุดเริ่มต้น เพื่อนำลูกบอลมาใส่ตะกร้าสีของตัวเอง (ในการหยิบลูกบอลแต่ละครั้งอาจให้เด็ก ๆ หยิบลูกบอลมากกว่า 1 ลูกได้ค่ะ) เมื่อเด็ก ๆ ได้ยินเสียงสัญญาณเริ่มวิ่งออกจากจุดเริ่มต้น หยิบลูกบอลได้มากเท่าไหร่ จำนวนลูกบอลในตะกร้าก็จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น รีบนำลูกบอลมาใส่ตะกร้า ก่อนเวลาจะหมด 3.
ครูเตรียมการสาธิตการทดสอบวิ่ง 50 เมตร เพื่อให้สามารถอธิบายประกอบแต่ละขั้นตอนได้ง่ายขึ้น 4. ครูแนะนำให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง วิ่ง 50 เมตร จากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L. O. LMS Lite เพิ่มเติมนอกเวลาเรียน ขั้นที่ 2 สาธิต สื่อ/แหล่งการเรียนรู้: 1. เอกสารประกอบการสอน 2. ครูอธิบายวิธีทดสอบการวิ่ง 50 เมตร จากนั้นให้นักเรียนอบอุ่นร่างกายก่อนการฝึกทดสอบ 2. ครูขออาสาสมัครนักเรียน 2-3 คน ออกมาสาธิตการวิ่ง 50 เมตร ให้เพื่อนดู โดยครูอธิบายประกอบในแต่ละขั้นตอน เพื่อให้อาสาสมัครสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว 3. นักเรียนแต่ละคนฝึกทดสอบการวิ่ง 50 เมตร ตามที่ได้ดูจากการสาธิต หรือศึกษาเพิ่มเติมจากเอกสารประกอบการสอน 4. ครูสังเกตการฝึกทดสอบของนักเรียนแต่ละคน และเน้นย้ำ ให้นักเรียนคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง ขั้นที่ 3 สรุปการสาธิต สื่อ/แหล่งการเรียนรู้: — คำถามกระตุ้นความคิด 1. นักเรียนร่วมกันสรุปวิธีทดสอบการวิ่ง 50 เมตร ครูตรวจสอบความถูกต้อง และให้คำแนะนำเพิ่มเติมในจุดที่บกพร่อง 2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด การทดสอบวิ่ง 50 เมตร สามารถเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายอย่างไร จงอธิบาย (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 4 วัดผลประเมินผล สื่อ/แหล่งการเรียนรู้: — 1.
หากนักวิ่งไม่มีนาฬิกาวิ่ง ไม่ต้องเสียใจไป "แอปพลิชัน" ในมือถือก็ช่วยคุณเก็บสถิติการวิ่งได้เช่นกัน ทั้งระยะทาง เส้นทาง ความเร็ว เพื่อให้คุณดูผลลัพธ์การวิ่งของตัวเองได้อย่างง่ายดาย + Run club แอปพลิเคชัน Nike+Run club มีทั้ง IPhone และ Android เป็นแอปฯ ที่ใน iTunes มีคนให้คะแนนถึง 5 ดาว โดยแอปฯ นี้เปรียบเสมือนทำหน้าที่เป็นโค้ชส่วนตัวของเรา ติดตามการวิ่งของเราทาง GPS มีระบบเสียงแนะนำระยะทางวิ่ง และยังมี Challenge ประจำสัปดาห์และเดือน เพื่อกระตุ้นการวิ่งของเรา และยังสามารถปรับแต่งให้เข้ากับเป้าหมาย และความสะดวกของเราได้ดี 2. Endomondo เจ้า Endomondo เปรียบเสมือนเทรนเนอร์ส่วนตัวขนาดจิ๋ว ไม่ว่าจะพกออกไปวิ่ง ไปปั่นจักรยานหรือกีฬาต่างๆ ที่ต้องใช้ระยะทาง ถือว่าทำหน้าที่ได้ดี และยังเหมาะกับคนรักโซเชียล เพราะสามารถเชื่อมต่อกับผู้คนเพื่อเพิ่มแรงจูงใจกันและกันได้อีกด้วย 3. Runtastic ใช้บริการได้ทั้งแบบฟรี และพรีเมียม เมื่อนักวิ่งที่ต้องการวิ่ง 10 กิโลเมตร ให้เป็นเรื่องสนุกๆ แอปพลิเคชันสามารถติดตามกระบวนการการวิ่งของเราและค้นหาเส้นทางใหม่ๆ ให้เราได้ออกไปวิ่ง แถมยังสามารถแชร์ผลการวิ่งไปในโซเชียลได้อีกด้วย นอกจากนี้ Runtastic ยังมีตัวช่วยการออกกำลังกายรูปแบบอื่นๆ ที่เราสนใจให้แอดเพิ่มเข้าไปได้ 4.